เจ้าของกิจการกู้เงินกับ Uinvest จริงหรือไม่

กู้ Uinvest ดอกแพงใครจะกู้ ?

ธนาคารมีทำไมไม่ไป ?

ธุรกิจจริงหรือบังหน้า ?

เป็นคำถามสุดฮิตเลยก็ว่าได้ หลายๆคนคงจะสงสัยกันอยู่วันนี้ผมนำคำตอบจาก RM ที่ได้สอบถามไปทาง Uinvest และนำคำตอบมาแปลไทยให้อ่านกันครั

เกี่ยวกับ Uinvest

Uinvest ต้องการเป็นที่หนึ่งของการลงทุนทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ต้องการให้ทั่วโลกยอมรับกับนวัตกรรมใหม่ของการลงทุนที่ Uinvest ได้สร้างขึ้น ปัจจุบัน Uinvest ถือว่าเป็นทางเลือกของนักลงทุนอีกทางหนึ่งที่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั่วโลก แต่ยังคงมีนักลงทุนบางส่วนที่ลงทุนกับ Uinvest แล้วยังมีข้อสงสัย และความระแวงติดอยู่ภายในหัวตลอดเวลาซึ่งทำให้ Uinvest ยังไม่สามารถเป็นการลงทุนที่นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นได้ 100% วันนี้ Uinvest จึงอยากเล่าถึงรูปแบบธุรกิจที่กำลังทำอยู่ เพื่อให้นักลงทุนทุกท่านได้เข้าใจถึงแก่นแท้ของความเป็น Uinvest หนึ่งเดียวที่มั่นคงและให้ผลตอบแทนดีอย่างเหลือเชื่อ “ไม่ใช่ HYIP ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ ไม่เป็นการหลอกลวง
ทุกๆคนยังคงสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไรที่เจ้าของกิจการจะจ่ายดอกเบี้ยแสนแพงต่อเดือนและมีกำไรในการดำเนินธุรกิจ แล้วยังไม่มีผิดนัดชำระหนี้อีกด้วย ทำไมทุกอย่างของ Uinvest มันเหมือนทางที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบไปหมดเนี๋ย !!!

มุ่งเน้นตลาดเกิดใหม่

นักลงทุนทุกท่านคงอยากทราบว่า จะมีธุรกิจไหนที่ยอมจ่ายดอกเบี้ยแพงแสนแพงให้ Uinvest ถ้าไม่ใช่พวกโง่ก็บ้า หรือไม่ Uinvest ก็สร้างภาพเอาธุรกิจมาบังหน้าจริงๆก็เป็นแชร์ลูกโซ่เอาเงินต่อเงินแน่ๆuinvest
  1. Uinvest ถือกำเนิดจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นในปี 2008 ณ ตอนนั้นที่ประเทศ Ukraine ธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ หยุดปล่อยกู้รายย่อยและภาคธุรกิจ เลยทำให้เศรษฐีที่ Ukraine มีโอกาสได้ปล่อยเงินทุนให้กับเจ้าของกิจการและสร้างรายได้จากดอกเบี้ยอย่างมหาศาล
  2. หลังจากเปิดตัวไม่นาน Uinvest ได้ขยายธุรกิจไปทั่วฝั่ง ยุโรปตะวันออกโดยเฉพาะ Ukraine (เนื่องจากมีการแนะนำปากต่อปากจากเจ้าของกิจการเลยทำให้ Uinvest เป็นแหล่งเงินทุนที่โด่งดัง) ในปีต่อมา Uinvest สร้าง GUN เป็นบริษัทย่อยเพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ขยายฐานธุรกิจและเงินทุน ให้ครอบคลุมทุกประเทศทั่วโลก
  3. หากนักลงทุนทุกท่านลองพิจารณาบริษัทที่มีการกู้เงินกับ Uinvest ทั้งหมด 80 กว่าบริษัท จะเห็นได้ว่าบริษัทเหล่านั้นมาจากธุรกิจที่อยู่ในประเทศที่ด้อยพัฒนา หรือเป็นประเทศเกิดใหม่ ไม่ใช่!! ประเทศที่พัฒนาแล้ว สาเหตุนี้เป็นเพราะ SME ในประเทศที่เกิดใหม่หรือด้อยพัฒนามีโอกาสในการขยายกิจการได้สูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว ในระหว่างที่ประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่จะเน้นการระดมเงินทุนไปที่ตลาดหลักทรัพย์มากกว่าการหาเงินทุนจากแหล่งอื่น
แล้วยังไง ?!? ไปปล่อยกู้ประเทศด้อยพัฒนา ประเทศเกิดใหม่ แล้วเจ้าของกิจการจะสามารถจ่ายดอกแพงได้ยังไง ?!? ทำไมไม่ไปกู้ธนาคาร ดอกเบี้ยถูกๆ  โอกาสเติบโตหรือขยับขยายมีมากกว่าอีก !!

ขาดแหล่งเงินทุน

  1.  นักลงทุนที่อยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา หรือประเทศที่พัฒนาแล้ว จะคุ้นเคยและเคยชินกับการกู้เงินจากสถาบันการเงินเป็นหลัก และมองว่าการกู้เงินผ่านสถาบันเป็นเรื่องง่าย แต่!!! สิ่งที่ประชากรในประเทศเหล่านี้ไม่รู้คือ ความขาดแขลนของแหล่งเงินทุนในประเทศที่ด้อยพัฒนา หรือประเทศเกิดใหม่ นั่นเป็นเพราะระบบการทำงานและการจัดการของสถาบันการเงินของประเทศเหล่านี้ไม่เอื้ออำนวยต่อการกู้เงิน เต็มไปด้วยการคอรัปชั่น และกฏเกณฑ์ที่ทำให้ธุรกิจ SME ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะคิดว่าสถาบันการเงินคือหนึ่งในแหล่งเงินทุนที่จะช่วยเหลือกิจการเค้าได้ ดังนั้น Uinvest เป็นโอกาส เป็นตัวเลือกที่จะให้เจ้าของกิจการเหล่านี้มีโอกาสได้ขยายกิจการ ทำธุรกิจได้อย่างมีความสุข และอาจเป็นโอกาสที่พลิกชีวิตเค้าได้ !!
  2. นักลงทุนที่อยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา หรือประเทศที่พัฒนาแล้ว จะมองว่าสถาบันการเงินคอยช่วยเหลือให้การสนับสนุนธุรกิจหรือกิจการใดๆที่มีแผนธุรกิจที่ดี มีความเป็นไปได้ในการเติบโตในอนาคต และหรือธุรกิจเกิดใหม่ที่มีไอเดียดีๆ แต่ในทางกลับกันสถาบันการเงินของประเทศที่ด้อยพัฒนา หรือประเทศเกิดใหม่ถึงแม้จะมีไอเดียดี แผนการตลาดเลิศ การเข้าถึงสถาบันการเงินหรือแหล่งเงินทุนเป็นเรื่องที่ยาก ที่เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ที่ SME จะอาจเอื้อม แต่เหล่าบรรดา SME ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เจ้าของกิจการเหล่านี้ได้นำไอเดียไปให้บริษัทรับจัดหาเงินทุน ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะมีลูกค้าที่มีเงินเป็นจำนวนมากอยู่ในมือ เพียงแค่นำแผนธุรกิจส่งมอบให้บรรดาฐานลูกค้า ทำการนัดหมายให้เจ้าของกิจการได้พบปะกับแหล่งเงินทุน และทำสัญญาตกลงการกู้กัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการแบ่งกำไรให้เจ้าของเงินทุน ดังนั้นเจ้าของกิจการจ่ายมากกว่า 10% ต่อเดือนแน่นอน หรือบางธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงให้ส่วนแบ่งถึง 40% ของกำไร นี่เลยเป็นสาเหตุที่ทำไมธุรกิจที่โด่งดังและเติบโตส่วนใหญ่มาจากประเทศที่พัฒนาแล้ว
ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นจริง แต่!!!! เจ้าของกิจการเหล่านั้นจะ มีกำไรเพียงพอที่จะจ่ายได้ยังไง ?!? ประเทศก็ด้อยพัฒนา อำนาจในการจับจ่ายน้อยกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วแน่นอน …..
  1. ข้อดีของกิจการที่อยู่ในประเทศที่ด้อยพัฒนาคือ “ต้นทุนต่ำ” ค่าแรงต่ำมาก ค่าครองชีพต่ำ ค่าเช่า ค่าบริหารจัดการ โดยเฉพาะประเทศเหล่านี้ไม่มีกฏเกณฑ์ข้อบังคับเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ เรื่องการดูแลความเป็นอยู่ของพนักงาน และสวัสดิการ จึงทำให้เป็นข้อได้เปรียบที่เจ้าของกิจการในลักษณะเดียวกันในประเทศที่ด้อยพัฒนาจะสามารถทำกำไรได้มากกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว
ตัวอย่าง
Etanya จากประเทศมาเลย์เซีย ทำบริษัทโรงกลั่นมะพร้าว เค้าต้องการเงินจำนวน $10,000 เพื่อขยายกิจการ ปัจจุบันมีพนักงาน 20 คน และต้องการเงินเพื่อนำมาซื้ออุปกรณ์ เครื่องจักรสำหรับการขยายฐานการผลิตของออร์เดอร์ล๊อตใหญ่ที่บริษัทได้ประมูลมาได้ หาก Etanya ได้รับเงินก้อนนี้จะทำให้เค้าสามารถจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ได้สูงกว่า 10% ต่อเดือน แต่เนื่องด้วยบริษัทไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้เลยได้หันมาหา Uinvest และเสนอจ่ายดอกเบี้ย 13% ต่อเดือน Etanya สามารถจ่ายดอกเบี้ยแพงขนาดนี้ได้ เพราะค่าแรงและค่าเช่าถูกมาก ดังนั้นค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุดสำหรับเค้าคือค่าอุปกรณ์และเครื่องจักร หาก Etanya ได้รับเงินก้อนที่ เค้าจะสามารถสร้างรายได้ถึง $50,000 นั่นหมายถึง 400% ต่อปีที่เค้าจะทำกำไรได้จากเงิน $10,000 หากลองคำนวณและคิดกันง่ายๆ $10,000 จ่าย 13% ต่อเดือน ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมดต่อปีคือ $15,600 ต่อปี แต่บริษัทสามารถสร้างรายได้ $50,000 จะยังคงเหลือกำไรตกถึงเจ้าของกิจการมากถึง $34,400 หรือคิดเป็น 244% ของยอดเงินกู้ จะเห็นได้ว่า เงินก้อนนี้สามารถเปลี่ยนรายได้ของบริษัทนี้ให้สูงขึ้นอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะทำได้ รวมถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน และค่าเช่ายังคงที่ ดังนั้น Uinvest จึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญให้กับเจ้าของกิจการผู้นี้ ถึงแม้ดอกเบี้ยจะสูงมากถ้าเปรียบกับสถาบันการเงิน แต่โอกาสที่จะได้รับเงินก้อนนี้จากสถาบันการเงินนั้นน้อยกว่า Uinvest มาก
หากเป็นอย่างนี้จริง ธุรกิจ Uinvest ก็เป็นธุรกิจจริงที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ที่ช่วยเหลือทั้งเจ้าของกิจการให้มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และในขณะเดียวกัน ช่วยเหลือนักลงทุนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน …. อะไรมันจะ perfect ไปหมด มันใช่โลกแห่งความจริงหรอ ?? เจ้าของกิจการเหล่านี้จะไม่เบี้ยวบ้างเลยหรือไง??

การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ

  1. หากเราจะลดความเสี่ยงในการลงทุน เราทุกคนต้องรู้จักวางแผน และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายนอกที่เราไม่สามารถควบคุมได้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ สิ่งที่เราไม่คาดคิด สิ่งที่เราคาดไม่ถึง จะทำให้แผนการของเราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ สิ่งเหล่านี้คือ ”ความเสี่ยง” เจ้าของกิจการจะมีการวางแผนการเงิน และบริหารจัดการทางการเงินเป็นไปตามแผนการที่ได้ตกลงกับทาง Uinvest ไว้ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดเรื่องเงินๆทองๆหรือการคอรัปชั่น มักเกิดขึ้นเสมอกับประเทศที่ด้อยพัฒนาหรือประเทศเกิดใหม่ คือ 1.โดนโกง 2.ต้องให้เงินใต้โต๊ะ 3.ต้องจ่ายส่วยให้กับผู้ดูแลทางด้านการค้า 4.ค่าใช้จ่ายด้านกฎหมาย 5.ต้นทุนเพิ่มขึ้น เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นตัวแปรสำคัญที่มีการประเมินจาก Uinvest เบื้องต้น และได้บวก % ควรเสี่ยงเพิ่มขึ้นไปแล้ว แต่หากเจ้าของกิจการประสบเหตุที่ไม่คาดคิดและเกิดค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่ประเมินไว้ อาจทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ Uinvest เลยไม่ปฏิเสธว่ามีเจ้าของกิจการ 5-7% ที่ผิดนัดชำระหนี้ แต่ด้วยประสบการณ์การการบริหารและจัดการด้านการเงิน Uinvest จะให้เจ้าของกิจการมีการใช้ 1.เงินสด 2.ทรัพย์สิน 3.เข้าถือหุ้น เป็นการค้ำประกันเงินกู้ ตามสัตส่วนที่ได้ตกลง
แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จริง Uinvest บริหารจัดการยังไง อย่างนี้มันก็กลับไปสู้เงินต่อเงินหรือเปล่า ?!?
  1.  การบริหารจัดการของ Uinvest ไม่สามารถเป็นที่เปิดเผยได้ เสมือนกัน KFC วันนี้เดินเข้าไปขอซื้อสูตร KFC คงไม่มีใครขายคุณเช่นกัน ดังนั้น วิธีการบริหารจัดการของ Uinvest เปรียบเสมือนเคล๊ดลับที่ไม่สามารถเปิดเผยให้ทราบได้ เพียงแต่จะต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Uinvest สามารถบริหารจัดการธุรกิจที่ผิดนัดชำระหนี้โดยที่ให้นักลงทุนเสียหายน้อยที่สุดคือ 1.หากมีการผิดนัดชำระหนี้ Uinvest จะประเมินสินทรัพย์ค้ำประกันของเจ้าของกิจการ และสัญญาการกู้ออกมาเป็นตัวเงิน และแปลงเป็นราคาหุ้นที่รับซื้อคืน ** หากกิจการใดๆที่ไม่มีการผิดนัด ราคาเปิดขายและราคาซื้อคืนจะเป็นราคาเดียวกัน หากกิจการใดๆที่มีปัญหาทางด้านการเงินและจำเป็นต้องคืนเงินก่อนกำหนด ราคาเปิดขายและราคารับซื้อคืนจะไม่เท่ากัน แต่ Uinvest จะจำกัดความเสี่ยงให้นักลงทุนเท่าที่วงเงินคำประกันทำได้ ….. ไม่ต่ำกว่า 80-90% ของราคาหุ้น 2.ทำการ Refinance ยอดเงิน ส่วนใหญ่จะเกิดกับธุรกิจที่ครบกำหนดระยะเวลาแล้ว มีการชำระดอกเบี้ยตรงเวลาแต่ยังไม่สามารถจ่ายเงินต้นได้หมด ดังนั้น Uinvest จะทำการเจรจา และยืดอายุการผ่อนชำระเงินออกไป
ทั้งหมดเป็นข้อมูลที่คาดว่าจะทำให้นักลงทุนคลายความสงสัยกับคำถามที่ติดอยู่ในหัวตลอดเวลา ถึงแม้ว่า Uinvest จะจ่ายเงินตรงเวลามาเป็นระยะเวลานาน แต่ก็ไม่สามารถคลายความสงสัยกับดอกเบี้ยแสนแพงเหล่านี้ได้
ตัวอย่างจาก Advance Agent ซึ่งเป็นเจ้าของ Project ใน Uinvest ไม่ต่ำกว่า 5 Project
== ตัวเลขจะเป็นตัวเลขสมมติทั้งหมดเพื่อป้องกันข้อมูลของบริษัท รวมถึงง่ายต่อการเข้าใจ ==
ธุรกิจที่ 1
ต้องการเงินต้น $100,000 ตกลงจ่าย 15% ต่อเดือน ระยะเวลา 2 ปี ดังนั้นดอกที่ต้องจ่ายทั้งหมดคิดเป็น $15,000 ต่อเดือน ดังนั้นเจ้าของกิจการต้องจ่ายเงินทั้งหมด $360,000 สำหรับดอกเบี้ย + $100,000 สำหรับเงินต้น รวมทั้งหมด $460,000  เจ้าของกิจการท่านนี้ตกลงจ่าย $15,000 สำหรับดอกเบี้ย + $4,200 – $4,500 สำหรับเงินต้น หรือคิดเป็น $19,200 – $19,500 ต่อเดือน ตลอดระยะเวลา 2 ปี
ธุรกิจที่ 2
ต้องการเงินต้น $100,000 ตกลงจ่าย 15% ต่อเดือน ระยะเวลา 2 ปี ดังนั้นดอกที่ต้องจ่ายทั้งหมดคิดเป็น $15,000 ต่อเดือน ดังนั้นเจ้าของกิจการต้องจ่ายเงินทั้งหมด $360,000 สำหรับดอกเบี้ย + $100,000 สำหรับเงินต้น รวมทั้งหมด $460,000  เจ้าของกิจการท่านนี้ตกลงจ่าย $60,000 ในเดือนแรก และยอดเงิน $17,000 ต่อเดือนตั่งแต่เดือนที่สองจนครบกำหนดสัญญา
ธุรกิจที่ 3
ต้องการเงินต้น $100,000 ตกลงจ่าย 15% ต่อเดือน ระยะเวลา 2 ปี ดังนั้นดอกที่ต้องจ่ายทั้งหมดคิดเป็น $15,000 ต่อเดือน ดังนั้นเจ้าของกิจการต้องจ่ายเงินทั้งหมด $360,000 สำหรับดอกเบี้ย + $100,000 สำหรับเงินต้น รวมทั้งหมด $460,000  เจ้าของกิจการให้ที่ดินของโรงงานกับ Uinvest ซึ่งประเมินราคาตลาด ณ เวลานั้นคือ $100,000 ซึ่งมีโรงงานพร้อมโครงสร้างอยู่บนที่ผืนนั้น และมีแนวโน้มค่าที่แพงขึ้นทุกปี การจ่ายรายเดือนคือ $15,000 ต่อเดือน
+ ไม่ใช่ทุกธุรกิจสามารถกู้เงินกับ Uinvest ได้ ต้องเป็นธุรกิจที่มีจังหวะและโอกาสที่เหมาะ และมีทรัพยากรที่เอื้ออำนวยเท่านั้น
+ สัญญาการกู้ และเงื่อนไขข้อตกลงในการชำระหนี้ของแต่ละบริษัทแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความเหมาะสมที่ Uinvest ได้ทำการประเมินไว้
+ ทุกบริษัทต้องเริ่มชำระดอกเบี้ยให้กับ Uinvest ตั่งแต่เดือนแรกที่ได้รับเงินก้อนนั้นๆไป
+ หากบริษัทใดๆต้องการเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์ หรือทรัพย์สินที่จับต้องได้ Uinvest จะไม่มีการให้เงินสดเจ้าของกิจการไปดูและเอง สินทรัพย์เหล่านั้น Uinvest จะเป็นเจ้าของและจะเป็นผู้ดำเนินการให้เจ้าของกิจการทั้งหมด
ทั้งหมดเป็นรายละเอียดจาก Uinvest ที่ให้ข้อมูลมา ทาง RM และ Agent ของประเทศไทยมีหน้าที่เพียงให้ข้อมูลจากบริษัทแก่นักลงทุนในประเทศไทยเท่านั้น มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจการลงทุนของนักลงทุนใน Uinvest และ มิได้มีส่วนในการระดมเงินลงทุนใดๆ  RM และ Agent มีหน้าเพียงให้ความสะดวกสบาย ให้ข้อมูล และสอนวิธีการใช้งานของ Uinvest เท่านั้น !!
ขอขอบคุณ RM พลอย ที่ให้ข้อมูลดีๆมาให้อ่านกันครับ
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน

credit : http://weloveuinvest.com


แสดงความคิดเห็น